กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า จับมือพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก



เทศกาลท่องเที่ยวและวัฒนธรรมกวางตุ้งประจำปี 2017 เปิดฉากขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ เมืองจูไห่ของจีน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองร้อยเกาะ" โดยได้มีการประกาศจัดตั้งสหภาพการท่องเที่ยวของเมืองในเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area) รวมถึงผลักดันให้งานนี้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

สมาชิกของสหภาพฯ ประกอบด้วยเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า รวมถึง 9 เมืองในมณฑลกวางตุ้ง เช่น กว่างโจว เซินเจิ้น และจูไห่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาเขต Greater Bay Area ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส ผ่านการขยายนโนบายความร่วมมือ การปฏิบัติตามความรับผิดชอบใหม่ของกลุ่ม รวมทั้งผสานตลาดการท่องเที่ยวเข้ากับทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเขตนี้หรือแม้กระทั่งทั่วประเทศจีนจะเติบโตอย่างสดใส

ปัจจุบัน การพัฒนา Greater Bay Area ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการผสานความร่วมมือด้านการคมนาคม บริการทางการเงิน และโครงสร้างอุตสาหกรรม ขณะที่กรมการท่องเที่ยวมณฑลกวางตุ้งได้สร้างความพยายามใหม่ๆ เพื่อขยายส่วนแบ่งตลาดการท่องเที่ยว พร้อมกับสร้างชื่อในระดับภูมิภาค

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กรมการท่องเที่ยวมณฑลกวางตุ้งได้ใช้กลยุทธ์โปรโมทการท่องเที่ยวในระดับสากล ด้วยการผลักดันการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมกวางตุ้งสู่เวทีโลก

บรรดาแขกผู้มีเกียรติจากต่างประเทศ เช่น คุณธีโอโดรอส ปันกาลอส อดีตรองนายกรัฐมนตรีกรีซ รวมถึงคณะผู้แทนจากองค์การการท่องเที่ยวโลก ต่างได้รับเชิญมาร่วมงานนี้ตั้งแต่ปี 2011

เนื่องในโอกาสที่ปีแห่งการท่องเที่ยวจีน-อียู ซึ่งกำหนดโดยคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวจีนและคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวยุโรป กำลังจะมาถึงในปี 2018 ทั้งสองฝ่ายจึงได้มีความพยายามในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามามากขึ้น โดยแขกชาวต่างชาติกว่า 100 คน จาก 21 ประเทศและดินแดน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่ในกว่างโจว ตัวแทนจากภาครัฐของเมืองพี่เมืองน้อง และบรรดาผู้นำจากธุรกิจการท่องเที่ยวในต่างประเทศ ต่างได้รับเชิญให้มาร่วมงานนี้เพื่อสัมผัสกับทรัพยากรการท่องเที่ยวอันอุดมสมบูรณ์ของกวางตุ้ง

นอกจากนี้ คณะผู้แทนจากหมู่เกาะคุกและนีวเว สองประเทศจากมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ยังได้รับเชิญให้มาโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศของตน จึงกล่าวได้ว่างานนี้ช่วยเปิดช่องทางใหม่ในการสื่อสารระหว่างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับนานาชาติอย่างแท้จริง

งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 แล้วนับตั้งแต่ปี 2005 โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากกิจกรรมโปรโมทการท่องเที่ยวทั่วไป จนกลายเป็นเวทีส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมอย่างจริงจัง ซึ่งช่วยเชื่อมทั่วโลกเข้ากับกวางตุ้งและจีน พร้อมกับกระตุ้นความร่วมมือและเศรษฐกิจ

ที่มา: กรมการท่องเที่ยวมณฑลกวางตุ้ง