เหรียญหล่อพิมพ์ประภามณฑลข้างรัศมีแฝด หลวงปู่ศุข ปากคลองมะขามเฒ่า

0...วันนี้มาชมของแปลกเป็นพระพิมพ์พิเศษ เหรียญหล่อประภามณฑลข้างรัศมีเนื้อทองเหลือง ที่พิเศษคือเป็นพระแฝดคู่ เข้าใจว่าไม่ได้ตัดแบ่งในตอนที่หล่อเสร็จ เนื้อหาพิมพ์ทรงถูกต้องและเนื้อโลหะเก่าตามกาลเวลา ปกติในพิมพ์ธรรมดาก็หลายแสนอยู่แล้ว เมื่อมาเป็นพิมพ์พิเศษซึ่งมีจำนวนน้อยนิดจะด้วยเหตุบังเอิญหรืออะไรก็ตาม ราคาก็อยู่ที่ใจ 
 
0...พระเหรียญหล่อหลวงปู่ศุขพิมพ์ประภามณฑลข้างรัศมี วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาทองค์นี้เป็นพระที่หล่อเป็นแผง จะมีรอยตัดแบ่งและแต่งด้วยตะไบ  ต้องพิจารณาธรรมชาติของเนื้อโลหะและผิวเป็นองค์ประกอบ  รวมถึงการตัดขอบ รอยตะไบเก่า เหรียญหล่อนี้เป็นพระปางขัดสมาธิเพชรอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว 2 ชั้น  โดยมีเส้นรัศมีรอบองค์พระ ประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์บัวคว่ำบัวหงาย ซึ่งกลีบของบัวมีลักษณะเป็นแบบบัวแหลม  และมีเส้นกั้นอยู่กลางของบัลลังก์ 
 
0...หลวงปู่ศุข เริ่มสร้างพระเครื่องครั้งแรกเพื่อเป็นที่ระลึกในการฌาปนกิจศพโยมมารดาของท่าน โดยสร้างพระพิมพ์สี่เหลี่ยมซุ้มรัศมี โดยท่านได้จำลองจากยันต์องค์ครูพระพุทธเจ้าเปล่งรัศมีของท่านมาเป็นแบบ ในพระเครื่องชุดนี้ของท่านนั้นจะมีทั้งเนื้อสำริด เนื้อทองแดง เนื้อทองเหลือง เนื้อฝาบาตรและเนื้อตะกั่ว หากเป็นเนื้อตะกั่ว ท่านจะเคี่ยวตะกั่วนมกับปรอทในกระเพาะควายเผือก ท่านจะเคี่ยวตะกั่วเป้นเวลา 7 วัน 7 คืน เมื่อเสร็จแล้วก็นำไปสร้างเป็นพระพิมพ์และตะกรุด ด้านหลังองค์พระมักจะจารยันต์ตัวพุทธม้วนโลก 


 
0...หลวงปู่ศุข ท่านเกิดพ.ศ.2390 ซึ่งตรงกับปลายรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเคยได้แต่งงานจนมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน เมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณบิดามารดา ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี โดยมีพระอธิการเชย จันทสิริ เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านก็จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ทองล่าง  
 
0...เมื่อท่านบวชแล้วก็ได้ พระอาจารย์เชยซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐาน และฝึกการเพ่งกสิณกสิณธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ( ปฐวีกสิณ อาโปกสิณ วาโยกสิณ เตโชกสิณ ) จนสามารถแยกธาตุได้ด้วยความชำนาญจนแตกฉาน ต่อมาท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสามง่าม ปทุมวัน เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม และท่านได้พบกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร เมื่อคราวย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดชนะสงคราม  
 
0...ช่วงที่ท่านไปเรียนกรรมฐานกับพระสังวราเมฆ สำนักวัดพลับ(หรือวัดราชสิทธาราม) นั้น มีเรื่องเล่าว่าหลวงปู่ศุข ได้ใช้อิทธิฤทธิ์โดยเสกหัวปลี 3 หัวโดยใช้เวลาอยู่พักใหญ่ แต่พระสังวราชุ่ม ศิษย์เอกพระสังวราเมฆ เพียงใช้ปลายไม้เท้ายอดตาลของวิเศษประจำสำนักวัดพลับ เพียงชี้ไปที่กองหัวปลีเท่านั้น ได้กลายเป็นกระต่ายจำนวนมาก สร้างความประหลาดใจให้กับหลวงปู่ศุขยิ่งนัก 
  
0...นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชาการเล่นแปรธาตุ  กับหลวงปู่ทับวัดอนงคาราม โดยพักอยู่กับสมเด็จพระพุฒาจารย์(นวม) ซึ่งเป็นสหธรรมิกในฐานะชาวชัยนาทด้วยกัน ท่านศึกษาวิชาทำโลหะเมฆสิทธิ์ ซึ่งความพิเศษของเมฆสิทธิ์พลิกจากเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี และเสริมโชคลาภ จะเห็นได้ว่ามีพระเครื่องหลวงปู่ศุข ที่สร้างด้วยเนื้อเมฆสิทธิ์ซึ่งตำรับจากวัดอนงคารามด้วย 
 

  0...หลวงปู่ศุขท่านยังเดินธุดงค์เป็นประจำ ทำให้ท่านได้พบพระอาจารย์อีกหลายท่าน และฝากตัวเป็นศิษย์ เล่าเรียนเวทมนต์คาถาเพิ่มเติม จนท่านสามารถเล่นแร่แปรธาตุ เสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน เสกให้คนเป็นจระเข้ เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย ระเบิดน้ำลงไปนั่งบริกรรม ทำตะกรุดโดยจีวรไม่เปียก ซึ่งล้วนแต่เป็นพระเวทย์ขั้นสูงรวมถึงการผูกหุ่นพยนต์และล่องหน ร่นระยะทาง หายตัว กำบังกายได้ 


 
 
0...ต่อมมาท่านได้ทราบข่าวโยมมารดาล้มป่วยด้วยความชราตามอายุขัย ด้วยความเป็นห่วงใยในมารดา  ท่านจึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมโดยออกธุดงค์มา จนถึงจังหวัดชัยนาท และได้อยู่จำพรรษาปีแรกๆที่วัดอู่ทองคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่อยู่ลึกเข้าไปในคลองมะขามเฒ่า แต่สภาพวัดในขณะนั้นชำรุดทรุดโทรม เกินกว่าที่จะบูรณะให้กลับคืนในสภาพที่ดีได้ ท่านจึงสร้างวัดขึ้นมาใหม่คือวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2447 ในระหว่างที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้เริ่มสร้างถาวรวัตถุ เช่นโบสถ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิ  กลายเป็นวัดที่สมบูรณ์จนทุกวันนี้ 
 
0...ชื่อเสียงที่โด่งดังด้านพุทธาคมของหลวงปู่ศุขทำให้ท่านมีลูกศิษย์จำนวนมาก แม้กระทั่ง กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทยก็มาถวายตัวเป็นศิษย์  ท่านได้ถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ ให้กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์จนหมด จนมีตำนานเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ที่ได้นำผ้าเจียดจากหลวงปู่ศุขไปแจกให้แก่ทหารเรือ และทดลองอาคมของหลวงปู่ศุข  
0...หลวงปู่ศุขท่านได้รับสมณศักดิ์เป็น พระครูวิมลคุณากร รั้งตำแหน่งเจ้าคณะแขวง (ปัจจุบันเรียกว่าเจ้าคณะอำเภอ) เป็นองค์แรกของอำเภอวัดสิงห์ หลวงปู่ศุขท่านเริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคชราในปี พ.ศ. 2464 ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2466 ท่านเริ่มอาพาธมากขึ้น และในเดือนพฤศจิกายน ก็มรณภาพลงด้วยอาการสงบในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2466 สิริอายุได้ 75 ปี พรรษาที่ 50 
 
0...ต่อมาประชาชนชาวจังหวัดชัยนาทได้ร่วมกันสร้างรูปหุ่นขี้ผึ้งไว้ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของสาธุชนทั่วไปและ วัดปากคลองมะขามเฒ่า นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยนาทในปัจจุบัน 
จากกันด้วยข้อคิด " ถึงมีมากจนล้นฟ้า ก็ไม่มีความสุข หากไม่รู้จักพอในสิ่งที่ตนมี"

 

เขียน:นายกองตรีอ้วน [email protected]