“หมอจุ๊บ”



กระแสฟีเว่อร์ “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” ซาไปพักใหญ่แล้ว แต่เรื่องราวของ “หมอจุ๊บ” ฉัฏมากุลธ์ นันทะบุญเจียม “หมอยา” ตำบลบางริ้น จังหวัดระนอง ซึ่งปักหลักทุ่มเทเพื่อการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาทั้งชีวิตยังดำเนินต่อไป ในดินแดน “ฝนแปด แดดสี่”

       “หมอจุ๊บ” เปิดฉากละครชีวิตจริงของตัวเองว่า ครอบครัวสืบทอดอาชีพ “หมอยา” มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ถ้าไล่เรียงเอาแค่การรับรู้ของตัวเอง หมอจุ๊บบอกว่า เกิดมาก็เห็นคุณพ่อ “หมอเจียม หนูคง”  เป็น “หมอยา” แล้ว  แต่หมอเจียมจะเป็นหมอยาแผนไทยโบราณ

       “มีน้าก็เป็นหมอยา น้องชายเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน น้องสาวกับน้องชายเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์แบบหมอ แต่เปิดโรงงานยาอยู่ที่กระบี่ หมอเป็นคนเดียวที่เปิดคลินิกให้บริการแบบนี้เพราะ ชอบสมถะ ปฏิบัติธรรม เนื้องานเราไม่ต้องมาก แต่เอาคุณภาพ”

ลูกศิษย์ นพ.อวย เกตุสิงห์ 

       หมอจุ๊บถือเอาคุณพ่อเป็นสุดยอดครูบาอาจารย์ ตำรายาของหมอเจียมยังตกทอดเก็บรักษาไว้ ขณะเดียวก็ศึกษาเพิ่มเติมจนเรียนจบจาก โรงเรียนอายุรเวทวิทยาลัย ซึ่งก่อตั้งโดย ศาสตราจารย์นายแพทย์อวย เกตุสิงห์  -“บิดาแห่งแพทย์แผนไทยประยุกต์” ซึ่งให้ความสำคัญกับวิธีการรักษาแบบตะวันออก ตามแนวของหมอชีวกโกมารภัจจ์ หมอประจำตัวของพระพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาล

       หลังเรียนจบ หมอจุ๊บ รับราชการอยู่ โรงพยาบาลแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนย้ายไปโรงพยาบาลกุดชุม จังหวัดยโสธร

สมัยอยู่โรงพยาบาลแม่แจ่ม หมอจุ๊บมีโอกาสทำงานร่วม ผอ.โรงพยาบาล นพ.ประเวศ วะสี, พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ, อาจารย์ชยันต์ วรรธนะภูติ,  ดร. ยิ่งยง เทาประเสริฐ, อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์  ซึ่งเป็นบุคคลระดับชั้นนำในแวดวงสาธารณสุขและแวดวงวัฒนธรรมชุมชน เพราะการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ไม่ใช่แค่การรักษาเยียวยาด้วยการใช้ยาแต่เป็นการรักษาแบบองค์รวมที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต วิถีชุมชน และเป็นการทำงานในเชิงรุก

“หมอทำงานเกี่ยวกับผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ ดูแลผู้ป่วยคัดแยกเป็นธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เดี๋ยวนี้เอดส์เป็นเรื่องง่ายไปแล้ว แค่เซลล์อักเสบเท่านั้นเอง เราจะทำยังไงไม่ให้เซลล์อักเสบ  ดูแลผู้ป่วยติดฝิ่น ใช้ สมุนไพร“โลดทะนงแดง” เข้าไปขับพิษออกมา เคยรักษาแบบองค์รวมให้ อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ทั้งอาหาร การพักผ่อน การดูแลด้วยสมุนไพรตามธาตุ  ทำงานร่วมกับตุ๊ (พระภิกษุ) ประเด็นปัญหาตกเขียว โดยนำเด็กผู้หญิงมาเรียนในเรื่องนวด สมุนไพร เพื่อสร้างอาชีพให้” หมอจุ๊บบอก

แต่จุดเปลี่ยนของชีวิตมาถึงเมื่อหมอจุ๊บตัดสินใจว่า

“หมอ ไม่เหมาะจะอยู่ในระบบราชการ เป็นต้นไม้ในกระถางที่รอน้ำ รอปุ๋ย รอฝน ไม่เอา และมันแคบเกินไปในกระถาง หมอต้องการเป็นกล้วยไม้ในป่าใหญ่ ต้องได้น้ำค้าง ได้แสงแดง ได้อากาศ โตได้ด้วยตัวเองและปีหนึ่งออกดอกแค่ครั้งเดียว ไม่พร่ำเพรื่อ”

ขอเป็นกล้วยไม้ในป่าใหญ่

       หมอจุ๊บตัดสินใจกลับมาเปิดคลินิกที่จังหวัดระนอง เมืองที่มีต้นทุนพร้อมทุกอย่างสำหรับการพัฒนาเป็นเมืองแห่งสุขภาพ  (wellness City) ไม่ว่าจะเป็นน้ำแร่ อากาศ อาหารการกิน และผู้คนที่มีวิถีชีวิต Slow life อย่างแท้จริง

       คลินิกหมอจุ๊บ มีผู้คนหลากหลายเข้ามาใช้บริการ ไม่เว้นแม้แต่ระดับวีไอพี.ของจังหวัดระนอง ก็เป็นเคสที่หมอจุ๊บยังต้องจัดโปรแกรมให้การรักษาต่อเนื่อง รวมไปถึงชาวต่างชาติอีกจำนวนมาก

       ป้ายหน้าคลินิก บอกรายละเอียดความเชี่ยวชาญของหมอจุ๊บในการดูแลรักษาคนไข้ ตั้งแต่ แมะชีพจร คูณธาตุปรับสมดุลเอ็กซเรย์แบบโบราณ โหราศาสตร์การแพทย์ ตรวจดวงชะตา อัมพฤกษ์  ไมเกรน นิ้วล๊อก กวาดซางเด็ก-ผู้ใหญ่ นวดแก้อาการ ฝังเข็มแบบโบราณ ฯลฯ

       หมอจุ๊บ บอกว่า การดูไพ่พรหมญาณเป็นเรื่องในเชิงจิตวิทยา เมื่อคนไข้เครียดมา ปวดหัวมา ก็ต้องดูดวงกันก่อนให้สบายใจ แล้วค่อยมาดูเรื่องโรค แต่ถ้าไปโรงพยาบาลส่วนใหญ่หมอก็จะสั่งให้ยา  

“จริงๆ แล้วโรคทุกวันเกี่ยวข้องกับเชื้อโรคน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นโรคจากความเสื่อมของการบริโภค พฤติกรรมทั้งนั้นเลยที่ทำให้ป่วย” หมอจุ๊บ บอก

โลกยุค 4 G  ทำให้คนเชื่อในแพทย์แผนปัจจุบัน จนปฏิเสธแพทย์แผนโบราณหรือกระทั่งแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือเปล่า ??

หมอจุ๊บ ตอบว่า หมอเชื่อในพลังจักรวาล หมอไม่ได้ต้องการคนไข้ทั้ง 100 คน แต่ต้องการคนไข้บางคนที่มี “บุญสัมพันธ์”กัน แพทย์แผนไทยประยุกต์เขาไม่ได้มองเป็นเงิน เขามองที่คุณค่า จิตวิญญาณ ซึ่งมันซับซ้อน ทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำกัน แล้วเราก็ยืนหยัดและเชื่อ  คนที่เข้ามาส่วนใหญ่เชื่อ ศรัทธา และตัดสินใจที่จะมาฟังคำอธิบายของเราแล้วลองไปทำดู ที่นี้หมอไม่ค่อยเน้นยา ทั้งที่ตัวเองเก่งเรื่องยามาก

คลินิกหมอจุ๊บหยุดทุกวันพระ เพื่อที่จะได้มีโอกาสนั่งสมาธิ และไปวัด

SEC – การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

โอกาสของแพทย์แผนไทยประยุกต์

บนเส้นทาง การเป็น “หมอยา” กับการรักษาคนไข้ ตามแนวทางแพทย์แผนไทยประยุกต์  หมอจุ๊บ บอกว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ปลายทางอย่าไปกังวล อะไรที่เหมาะสม จักรวาลจะเหวี่ยงเข้ามาเอง เรามีเป้าหมายเพื่อการให้ การแบ่งปัน การเติบโต ผู้คนเปลี่ยนแปลงดีขึ้น

ที่ผ่านมาในแง่เศรษฐกิจ จังหวัดระนอง ถูกจัดอยู่ในฐานะเมืองรอง แต่ปัจจุบันจังหวัดระนองถือเป็น 1 ใน 4 จังหวัดโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC)  ซึ่งช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตมาก โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ภายใต้โอกาสนี้ หมอจุ๊บ ก็มีความตั้งใจที่จะให้แพทย์แผนไทยประยุกต์เป็นส่วนหนึ่งของทิศทางการพัฒนานี้ โครงร่างความตั้งใจมีการตกผลึก ผ่านการพูด การหารือกับกลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกันไประดับหนึ่งแล้ว เข้าใจว่าอีกไม่นาน จะได้เห็นโครงการดีๆ ของหมอจุ๊บที่จะทำให้แพทย์แผนไทยประยุกต์เป็นเครื่องมือของการแบ่งปันเพื่อให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงดีขึ้นที่จังหวัดระนอง

กล้วยไม้"โกมาซุม" กำลังเติบโตในป่าใหญ่

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ