เทรนด์ใหม่ Gen Y ใช้นวัตกรรมประหยัดพลังงาน

โครงการ “รวมพลังหาร 2” โดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ได้ทำหน้าที่ปลุกกระแสสร้างจิตสำนึกให้คนไทยตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างประหยัดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งให้ประชาชนทุกคนมีจิตสำนึกคิดก่อนใช้ทุกครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ของการรณรงค์ตามแนวคิดนี้ยังคงมีอยู่ในสังคมไทย และในวันนี้โครงการรวมพลังหาร 2 ได้กลับมาอีกครั้ง และเพิ่มความเข้มข้นขึ้นเพื่อกระตุ้นย้ำเตือนประชาชน พร้อมพัฒนาแคมเปญให้เหมาะกับยุคการตลาด แนว Value Centric Marketing สอดคล้องกับกระแสสังคมออนไลน์ในปัจจุบันที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นสู่แนวทางการลงมือปฏิบัติและประหยัดได้จริงเห็นผลแน่นอนกับนวัตกรรมการประหยัดพลังงานในรูปแบบใหม่

 

ผลการสำรวจการใช้นวัตกรรมการประหยัดพลังงานและพฤติกรรมการรับสื่อ โดย สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เมื่อเดือนที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มตัวอย่างคน Gen Y ที่มีอายุระหว่าง 25 – 39 ปี* เป็นกลุ่มคนที่ใช้สื่อออนไลน์ต่อวันมากที่สุด และมีพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการขับเคลื่อนสังคมในปัจจุบัน และนิยมเปิดรับข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์มากที่สุด ได้แก่ Line 30.95%, Facebook 28.01% และ YouTube 14.55%  และยังพบว่า กระแสใหม่ของกลุ่ม Gen Y นิยมเลือกใช้นวัตกรรมประหยัดพลังงานผ่านโทรศัพท์มือถือมากสุดและกำลังมาแรง 3 อันดับแรก ได้แก่ การใช้บริการ Shopping Online 17.8%, Food Delivery 15.9% และ App เรียกรถ 13.1% ซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆ เหล่านี้ได้ช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตก็สามารถประหยัดพลังงานได้ 




 

จากผลการสำรวจข้างต้น โครงการ “รวมพลังหาร 2” จึงนำมาเป็นแนวทางการสื่อสารในรูปแบบใหม่ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมประหยัดพลังงาน” โดยวางกลยุทธ์การสื่อสารประหยัดพลังงานให้สอดคล้องกับสังคมยุคออนไลน์มุ่งเจาะกลุ่ม Gen Y การรณรงค์ในปีนี้จึงได้ปลุกกระแส Gen Y ใช้นวัตกรรมประหยัดพลังงานที่สามารถเริ่มต้นทำได้จริง ใช้จริง ประหยัดจริง และเข้ากับกลุ่มคน Gen Y ทั้งนี้การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีอยู่รอบตัวในปัจจุบันเข้ามาตอบโจทย์เพื่อการประหยัดพลังงานที่คุ้มค่ามากกว่าและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของทุกกลุ่มอย่างลงตัวจริงๆ …ติดตามสารพัดไอเดียนวัตกรรมประหยัดพลังงานหาร 2 ได้ที่ www.รวมพลังหาร2.com, Facebook.com/eppohan2, YouTube: eppohan2, IG:eppohan2

 

 

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ