กรมอนามัย เร่งคุมเข้มความสะอาด หลังพบอุจจาระร่วงเฉียบพลันในหลายพื้นที่

 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิงเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศแปรปรวนในประเทศไทยทั้งฝนตก อากาศเย็น ส่งผลให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะเชื้อโนโรไวรัสและโรต้าไวรัส ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดโรคอุจจาระเฉียบพลันหรืออุจจาระร่วงรุนแรง โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พบนักเรียน จำนวนกว่า 80 คน ท้องร่วงเฉียบพลันในโรงเรียน รวมทั้งรายงานจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 มีคณะศึกษาดูงานที่เข้าพักในรีสอร์ทจังหวัดจันทบุรี จำนวน 20 คน มีอาการอาหารปวดท้อง ถ่ายเหลว และอาเจียน

 นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นการระบาดของโรคอุจจาระเฉียบพลัน ที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียน และที่พัก กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบหมายทีมภารกิจปฏิบัติการด้านส่งเสริมสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อมดำเนินงานร่วมกับพื้นที่ สื่อสาร สร้างการรับรู้ และเน้นย้ำให้โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก โรมแรม รีสอร์ท สถานประกอบการร้านจำหน่ายอาหาร ตลาด และประชาชนปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันในทุกพื้นที่และทุกกลุ่มวัย คือ 1) สำรวจ ประเมินสุขลักษณะของสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรค สถานประกอบการ กระบวนการผลิตของสถานประกอบการ กิจการ

และแหล่งผลิตอาหารและน้ำดื่มน้ำใช้ เช่น ร้านจำหน่ายอาหาร ตลาดสด ระบบประปาชุมชน โรงงานผลิตน้ำแข็ง น้ำดื่ม เป็นต้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรค 2) ให้คำแนะนำในการดูแล ควบคุม กำกับการประกอบการ การจัดการกระบวนการผลิต ของสถานประกอบการ กิจการ แหล่งผลิตอาการและน้ำดื่ม น้ำใช้ให้มีความสะอาด มีการฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรค การดูแลส้วมให้สะอาด รวมทั้งดูแลสุขอนามัยที่ดีของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้ปรุงประกอบอาหาร หรือผู้ที่มีการสัมผัสอาหารและน้ำดื่ม และ3) สื่อสาร สร้างการรับรู้ให้แก่ผู้ประกอบการ ผู้ดูแลสถานที่ผลิต และจำหน่ายอาหาร ครู นักเรียน ให้มีการสังเกต ประเมินความเสี่ยงในพื้นที่และจุดที่มีความเสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรค รวมทั้ง การดูแลสุขลักษณะของอาคาร สถานที่ต่างๆ ให้มีความสะอาด การฆ่าเชื้อโรค และมีการจัดการขยะอย่างถูกต้อง

 “ทั้งนี้ กลุ่มเด็กเล็กถือเป็นกลุ่มเสี่ยง กรมอนามัยจึงขอให้ครูและผู้ดูแลเด็กเล็กให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยจัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ พร้อมให้ความรู้แก่นักเรียนในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคล และมีอาการอุจจาระร่วงเฉียบพลันหรือเสี่ยงเกิดภาวะร่างกายสูญเสียเกลือแร่ อ่อนแรง เบื้องต้นให้ดื่มเกลือแร่ Oral Rehydration Salt (ORS) และหากมีอาการรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์ทันที

สำหรับผู้ประกอบปรุงอาหารควรมีสุขอนามัยที่ดี ดูแลสุขลักษณะอาคารสถานที่ สถานที่ผลิตน้ำดื่ม น้ำแข็งได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และประชาชนควรมีพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดี โดยกินอาหารปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลางของตนเอง ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ ก่อนรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำห้องส้วม และเมื่อสัมผัสจุดสัมผัสร่วม เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และรับประทานอาหารในร้านจำหน่ายอาหารที่สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงการระบาดของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว