มิติใหม่ เปิดมุมมอง ร่วมแก้ปัญหา ภาคเอกชนไม่ติด ขึ้นค่าแรงแต่ต้องเหมาะสม

 


นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

ได้เดินทางมาด้วยรถจักรยานยนต์ เพื่อเข้าหารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.

โดยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ดักรอ ถึงกรณีที่มาพูดคุยที่ ส.อ.ท.

โดยนายพิธา กล่าวว่ามี สว.หลายคนทำงานในยุครัฐบาลไทยรักไทย สมัย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ทำงานที่นี่ ซึ่งผูกพันกัน

‘สว.หลายท่านเคยทำงานในหลายกระทรวงเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เคยเห็นผมมาตั้งแต่อายุ 20 กว่า ความชัดเจนจะมากขึ้นแน่นอน  เข้าใจว่าคงต้องใช้เวลาในการอธิบาย เพื่อให้ประชาชนสบายใจ รวมไปถึงนักธุรกิจที่จะมั่นใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาล จึงเป็นเหตุที่มาเข้าพบในวันนี้’

ทั้งนี้ พร้อมรับฟัง 6 ข้อเสนอของภาคเอกชน ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. นำเสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไป ตามนโยบายพรรค คือ เน้นบรรเทาทุกข์ เน้นความเท่าเทียม เน้นเรื่องความทันสมัย เป็นธรรม และ ต้องเป็นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดความเหลื่อมล้ำด้วย

ซึ่งเชื่อว่าเมื่อนักธุรกิจได้รับฟังก็จะเห็นภาพที่ชัดเจน ในการเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซบเซา

ด้าน นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหรรมแห่งประเทศไทย

เผยว่า การพูดคุยวันนี้เป็นการพบปะเพื่อสร้างความเข้าใจ และสร้างความเชื่อมั่น โดย
จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นค่าแรง , ค่าไฟ-ค่าน้ำ ,การช่วยเหลือและผลักดันเอสเอ็มอี และการปฎิรูปกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินหน้าเศรษฐกิจ

ถือเป็นอีกมิติใหม่ที่พรรคจัดตั้งรัฐบาล มีการเข้ามาเปิดมุมมองและแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน

สำหรับประเด็นการปรับขึ้นค่าแรง ภาคเอกชนมองว่าต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่กลัวว่าจะมีการปรับขึ้นแต่ต้องเหมาะสมกับทุกฝ่าย