จี้เร่งจัดการขยะชุมชน

 

“พิธา” อภิปราย หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการจัดการขยะชุมชน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น-เมืองท่องเที่ยว

พร้อมเล่าประสบการณ์ลงพื้นที่บ่อขยะสมุทรปราการ-ภูเก็ต
เสนอ 5 แนวทางแก้ไข ต้นทางถึงปลายทาง แนะเพิ่มงบอีก 20 เท่า จัดการปัญหาขยะในไทยได้

(26 มค.67)นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ต้องพูดถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน คือญัตติการบริหารจัดการขยะชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพื้นที่เมืองท่องเที่ยว

เพราะในช่วงยุติการปฏิบัติหน้าที่ สส. เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ตนได้ลงพื้นที่บ่อขยะแพรกษาใหม่ จ.สมุทรปราการ

และบ่อขยะเทศบาลนคร จ.ภูเก็ต ทั้ง 2 ที่ให้ความรู้ตนมาก เป็นพื้นที่ที่แตกต่างกันพอสมควร

สมุทรปราการเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีโรงงานและแรงงานเยอะ

ส่วนภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

สำหรับกองขยะที่สมุทรปราการ ความสูงอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าตึก 5 ชั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือปริมาณขยะรายวันที่ 2,830 ตันต่อวัน สามารถจัดการขยะได้ถูกต้องตามสุขลักษณะตามมาตรฐานเพียง 300 ตัน

ที่เหลือกว่า 2 พันตันถูกจัดการอย่างไม่ถูกต้อง สร้างผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องสมุทรปราการ เพราะข้างๆ บ่อขยะคือโรงเรียนที่มีเด็กเล็ก เสี่ยงเกิดอันตราย เสี่ยงอัคคีภัย

แต่เมื่อดูงบประมาณ สมุทรปราการ มีจีดีพี 660,685 ล้านบาท งบอยู่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 49 แห่งเพียง 1,654 ล้านบาท คิดเป็น 0.25%

ขณะที่สถานการณ์ที่ภูเก็ต ถ้าไม่สามารถบริหารจัดการได้ ต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยอะๆ หลังโควิด ทั้งที่ขยะในปัจจุบันอยู่ในระดับวิกฤติ

จากที่ตนลงพื้นที่เห็นว่าสักวันหนึ่งขยะก็จะลงไปในทะเล ต่างชาติจะเรียกภูเก็ตว่า Garbage Paradise หรือสรวงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยขยะ

โดยปริมาณขยะรายวันสูงสุดอยู่ที่ 871 ตันต่อวัน ความสามารถในการเผาขยะอยู่ที่ 700 ตัน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตอย่างชัดเจน เมื่อดูงบประมาณ จีดีพีของภูเก็ต 202,555 ล้านบาท แต่มีงบให้ อปท. ทั้งจังหวัดเพียง 633 ล้านบาท คิดเป็น 0.31%

“นี่คือภาพในระดับระดับจุลภาค เห็นได้ในท้องถิ่น ที่ทำให้ผมกลับมาแล้วสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ ว่าถ้าเป็นในระดับชาติ ถ้ามีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ ควรจับประเด็นในระดับประเทศอย่างไร”